ทุกการตัดสินใจมีราคาที่ต้องจ่าย แต่ผลตอบแทนจะคุ้มค่าเสมอ: สุรพันธ์ แสงสุวรรณ์

1

ช่วงต้นปีก่อนที่ฉันจะทำ Behind The Scene ฉันเอาตัวเองเข้าไปเป็นผู้จัดการและฝ่ายดูแลศิลปินของวงไอดอลวงหนึ่ง โดยเนื้องานคือการดูแลภาพลักษณ์ของวง ประสานงานสื่อมวลชนรวมถึงคู่ค้าและลูกค้าที่เกี่ยวข้องกัน

เป็นการทำงานที่ท้าทาย ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และคอนเนคฉันมากมายกว่าที่คาดจากการทำงานนี้ รวมทั้งความผูกพันระหว่างเด็กสาวที่เข้ามาทำตามความฝันและทีมงานทั้งหลายก่อตัวขึ้นมา

กับทีมงานกลุ่มนั้น เราผ่านอุปสรรคและบททดสอบมากมายจนเรากลายเป็นเพื่อน-พี่-น้อง ที่ร่วมเป็นตายกัน และมีตัวตนในชีวิตของกันและกันจนถึงวันนี้ แต่น่าเสียดายที่ฉันอยู่ได้ไม่นาน เพราะปัญหาภายในบางประการที่ถูกพูดถึงไปบ้างแล้วในกลุ่มแฟนคลับ และขยะใต้พรมอีกมากที่ยังไม่ถูกเก็บกวาด ทำให้ฉันและทีมงานชุดนั้นเกือบทั้งทีม ต้องพ้นความเกี่ยวข้องเหล่านั้นไป

ดีแล้วแหละที่อยู่ไม่นานไปกว่านั้น

ช่วงเดือนสองเดือนให้หลังมานี้ น้องๆ วงนั้นประกาศสิ้นสุดบทบาทในจำนวนที่มากอย่างมีนัยยะสำคัญ

ฉันไม่ได้ชี้นำว่าการออกจากวงในเวลาไล่เลี่ยกันนี้มันกำลังไปสู่อะไร

โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินกัน สุดแล้วแต่จะตีความ

แต่เอาเป็นว่ามีน้องในวงนั้นหนึ่งคน สองคน สามคน จนรวมๆ กันได้จำนวนหนึ่งติดต่อหาฉัน เพื่อแจ้งให้ฉันรับทราบว่า พวกเธอไม่ข้องเกี่ยวอะไรแล้ว

ฉันก็ได้แต่อวยพรขอให้เธอโชคดี และทำให้พวกเธอมั่นใจว่า เธอยังเป็นน้องของฉันเสมอ

ก่อนหน้านั้น น้องในวงคนหนึ่งโทรหาฉันเพื่อปรับทุกข์และปรึกษาถึงความยากเข็ญในวงการไอดอลไทย มันเป็นบทสนทนาความยาวหลักชั่วโมง ที่เธอจากปลายสายบอกว่า ทุกอย่างตอนนี้มันยากที่จะคาดเดาได้ว่า ทั้งอนาคตของเธอเอง ของวง และของวงการโดยองค์รวม มันจะไปในทิศทางไหน​

ฉันได้แต่บอกเธอว่า ถ้าเธอยังเชื่อในตัวเอง เชื่อในกำลังที่เธอจะดิ้นรนต่อสู้เพื่อทำตามฝัน หรือเชื่อในโชคชะตา ก็จงเดินต่อไปทั้งที่ยังสะบักสะบอมต่อการหกล้ม และแผลจำนวนมากบนร่างกายและจิตใจของเธอ เพราะอย่างน้อย ความพยายามที่เธอใช้อาจนำไปสู่อะไรสักอย่างที่เธอฝันและทัดทานไว้ว่ามันจะเกิดขึ้น

สุดท้ายเธอก็เปลี่ยนเส้นทางโดยการออกจากวง ทำงานพาร์ทไทม์กะกลางวัน กะกลางคืนก็ทำไลฟ์ในแอปแห่งหนึ่ง เธอบอกฉันว่าเธอไม่ยอมแพ้กับเส้นทางสู่โลกมายา ที่ฉันก็เชื่อว่าเธอคงไม่รู้อะไรมาก

แต่อย่างน้อย การที่เธอหันหลังให้วงการไอดอล เธอบอกฉันแค่ว่า

มันน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดของเธอแล้ว

2

น้องที่รู้จักกันคนหนึ่งซึ่งเราสนิทและชอบพอกันอยู่ โทรหาฉันในคืนหนึ่ง

เขาบอกฉันว่า หลังจากจบการศึกษามา เขาคิดไม่ออกเลยสักนิดว่าควรจะต้องทำอะไรต่อ แต่ไฟต์บังคับที่มีแน่ๆ คือ ต้องหารายได้

แต่การทำงานตรงสายก็ไม่ตอบโจทย์ บังเอิญว่าถ้าอยากทำงานสายนิเทศศาสตร์ที่เขามีแพสชั่นอย่างเต็มเปี่ยม ก็มีโอกาสน้อยกว่าพวกเด็กจบใหม่สายตรงอีก

ตอนนี้เขาเลยบอกฉันว่า มันคงจำเป็นที่ต้องสอบแข่งขันเพื่องานในสายอาชีพที่เขาจบมา ซึ่งเขาไม่ได้รักมันสักเท่าไหร่ แต่ใจเขายังมีดนตรีและงานถ่ายภาพเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต เขาจะยังทำมันในเวลาว่าง และเวลางานก็จะเต็มที่กับสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อแลกเงินตรา

ตอนนี้เขาคงจะทนอีกหน่อยกับการอ่านหนังสือสอบที่เขาทำมาตลอดสี่ซ้าห้าปี และไปทำงานตรงสาย

ที่คงจะขมขื่นพอดูในเวลาเช้าจรดเย็น แต่เวลาค่ำเขาคงจะเป็นตัวเอง ตัวเองที่เขาคงรักมันมากพอดู เพราะการกดบีต เขียนเนื้อ หรือแต่งรูป น่าจะเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดีกับทักษะวิชาชีพที่เขาถูกหล่อหลอมมา

เขาบอกฉันว่า ตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตแบบนี้ น่าจะถูก

 

3

ฉันแวะไปดื่มมา ร้านกินดื่มที่ฉันไปเป็นห้องเล็กๆ ที่มีแต่บาร์และผู้คนจนเกือบเต็ม โชคดีที่ปลายบาร์มีที่เหลือให้ฉันอยู่ ฉันสอดตัวเข้าไปพร้อมสั่งเครื่องดื่มสีอำพันจากแบรนด์ใหญ่เจ้าตลาด

จ้ะ, ขออภัย ตัวเลือกมันมีไม่เยอะ

พร้อมสังเกตการณ์แกมแอบฟังบทสนทนาอย่างเสียมารยาทของผู้คนในร้าน

ชายคนหนึ่งสูงไล่ๆ กับฉัน หุ่นหมี ผมยาว ไว้หนวดเครา เดาไม่ยากว่านอกจากจะเล่นฟิตเนส ที่มีหุ่นแบบบวมๆ ไม่เวย์ก็เบียร์ เขาคงจะจบคณะวิศวกรรมศาสตร์มาแน่ๆ ซึ่งฉันเดาถูก เพราะจากการแนะนำของเจ้าของร้าน เขาจบตรีแบบมีเกียร์มา ตอนนี้เรียนปริญญาโทอยู่คณะอะไรก็ไม่รู้ เค้าไม่ได้บอกแหละ

สมัยเป็นเฟรชชี่ถือแฟ้ม เค้าบอกว่าเกรดเฉลี่ยเทอมแรกคือ 1.00

ก็ว่าไม่ได้ เด็กบางคนปรับตัวไม่ทัน แต่แบบนี้ก็ชวนหน้ามืดไปนิด

นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เค้าฮึดเพื่อจะทำตัวให้ดีขึ้นในด้านการเรียน แต่สุดท้ายเค้าก็จบ 5 ปีตามสูตรสำเร็จของเด็กคณะนั้น เพราะโค้งสุดท้าย เค้าหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารในย่านการค้าใหญ่ของนครพิงค์ ซึ่งพอเรียนจบ กิจการที่เขาตั้งใจลงใจ ลงเงิน ลงแรงกับเพื่อนๆ ที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน ก็จบไปพร้อมๆ กับมือเค้า

ถึงตรงนี้เค้าไม่ได้เล่าว่าสุดท้ายความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อน จบลงแบบไหน แต่ฉันคิดว่า ถ้าเปิดร้านใจกลางถนนคนจีน ก็น่าจะเจ็บหนักกันพอดู

ความฝันล่มสลาย เค้ากลับสู่ความเป็นจริงด้วยการสมัครงานที่ต่างๆ

ดั่งนรกชัง เพราะไม่มีที่ไหนรับเค้าเข้าทำงานด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าวงการนี้เค้าใช้ตัวแปรด้านไหนคัดเลือกคนเข้าทำงาน แต่ยอมรับ-ฉันสงสารเขาจับใจที่เขาไม่ใช้ผู้ที่ถูกเลือกในองค์กรไหนเลย

สุดท้ายเขาก็กลับบ้านมาช่วยธุรกิจตู้ขายของอัตโนมัติ อันนำไปสู่ต้นเหตุของการศึกษาต่ออย่างเข้มข้น หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจนฉันก็ตาลุกวาวใช่ย่อยคือ ตู้กดกาแฟอัตโนมัติ ซึ่งใช้กาแฟสดจากเมล็ดจริง คั่ว บด และชงในตู้ได้จริงๆ

ฉันไม่ได้ถามว่ากระบวนการไปถึงไหน เพราะเวลามันดึกมากแล้ว ฉันจึงขอตัวและตบไหล่เขาสองสามที อวยพรบอกให้เขามั่นใจ ว่านั่นคือสิ่งที่เขาเลือกทำได้อย่างถูกต้องที่สุดแล้ว

“ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะทำให้ครอบครัวได้” เขาบอกฉัน

แถมแววตามันมุ่งมั่นมากจนฉันอยากเข้าไปกอดเขา เพื่อตอกย้ำว่า ไอ้หนุ่มเอ๊ย สิ่งที่เอ็งกำลังจะทำมันยิ่งใหญ่ เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ แต่ฉันคิดว่ากะเทยมัดจุกไว้หนวดเครากลิ่นเหล้าหึ่ง จะกอดผู้ชายหุ่นหมี ที่น่าจะเมาได้ที่อยู่คงจะไม่เหมาะนัก เผลอๆ คงจะโตนตีด้วย

มากสุดเท่าที่ทำได้ ฉันแค่บอกเขาว่า ถ้าเขายิ่งใหญ่ได้เมื่อไหร่

ขอให้ฉันได้รับเกียรติที่จะเล่าเรื่องของเขาให้ทุกคนฟังแล้วกัน

 

4

ถ้าว่ากันด้วยการเลือกทำอะไรสักอย่างให้กับ Behind The Scene นอกจากเลือกแหล่งข้อมูลเพื่อสัมภาษณ์ทำบทความ วิดีโอ หรือเลือกหัวข้อทำรายการพอดแคสต์แล้ว เรื่องประจำปักษ์หรือ Cover Story ก็เป็นอีกสิ่งที่เราเลือกกันแบบที่เราก็คิดไม่ตกว่า แต่ละรอบการออกของสลากกินแบ่งฯ เราจะพูดเรื่องอะไรดี

เราเลยใช้วิธีบ้าๆ บอๆ อย่างการหมุนวงล้อในแอพลิเคชั่นเพื่อเลือกผู้โชคดีในการคัดเลือกปักษ์นี้

ฉันเสนอวิธีนี้เพราะอยากให้โอกาสชาวกองฯ คนอื่นในการนำเสนอเรื่องต่างๆ บ้าง แต่ผลที่ออกมากลับบ้าบอเหมือนหวยล็อก เพราะสุดท้ายฉันเองนี่แหละ ที่ต้องเลือกเรื่องประจำปักษ์นี้เอง

เอ้า มันก็เป็นเรื่องของการตัดสินใจอีกแล้วสินะ

เพื่อให้การทำงานสนุกขึ้น ฉันเลยโยนโจทย์ไปง่ายๆ แค่ว่า “อยากเล่าเรื่องอะไร เล่าเลย แต่ขอให้ Subject เป็นคนนะ”

อาจฟังดูแปลกๆ ไปสักนิด แต่เอาจริงแล้วการที่ฉันโฟกัสเรื่องคนเป็นหลัก และให้อิสระทุกคนในการเล่าเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะฉันเชื่อในคุณค่าของมนุษย์ทุกคนที่ต่างทำสิ่งที่ตัวเองปรารถนา สิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจจนกลายเป็นเรื่องราวที่เป็นทั้งแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับผู้คน

พวกเราแฮปปี้กับเรื่องในปักษ์นี้ และหวังว่าอีกงวดรางวัลสลากกินแบ่งนี้ ทุกคนคงจะแฮปปี้กับงานของเรา

 

5

หลายครั้งหลายทีคนเราต้องตัดสินใจทำอะไร เลิกอะไร หรือเปลี่ยนอะไร เชื่อเถอะว่าเราต้องลังเลกันบ้างไม่มากก็น้อย ว่าจุดเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้นมันจะถูกหรือผิด แต่เอาเข้าจริงแล้ว นอกจากผลกระทบที่จะส่งผลต่อร่างกาย จิตใจ เงินในกระเป๋า ความสัมพันธ์ หรืออะไรก็ตาม

ทุกจุดเปลี่ยนให้บทเรียนเสมอ

หลายคนใช้จุดเปลี่ยนพลิกชีวิตจนความเปลี่ยนแปลงเบี่ยงเส้นทาง หันเหให้คนบางคนเปลี่ยนไปตลอดกาล แต่กับบางคนที่เจอจุดเปลี่ยน ชีวิตพังแบบล้มไม่เป็นท่าเลยก็มี แต่สุดท้ายต่อให้คนเราล้มดัง ล้มนาน

ก็ต้องลุกกันบ้าง

ฉันก็กลัวที่จะตัดสินใจในหลายเรื่อง หลายเหตุการณ์ สภาวะการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งช่วงวัยและปัญหาส่วนตัว บอกให้ฉันต้องตัดสินใจแบบรอบคอบมากๆ

แต่ถึงตรงนั้นถ้าฉันต้องเจออะไรอีก

การตัดสินใจพวกนั้นจะบอกเอง ว่าฉันเลือกถูกแล้ว

Contributors

สุรพันธ์ แสงสุวรรณ์

นักเล่าเรื่องที่ใช้ตัวอักษรเป็นเครื่องมือและศรัทธาในพลังของงานเขียน ผู้ชอบตัวเองตอนนั่งสัมภาษณ์ผู้คนที่สุด